การประกันภัยรถยนต์เป็นส่วนสำคัญของการเป็นเจ้าของรถยนต์ โดยทั่วไปแล้วเป็นข้อกำหนดทางกฎหมายในหลายประเทศด้วยซ้ำ และประกันรถยนต์เองก็แผนประกันภัยรถยนต์หลายประเภทให้เลือก ตั้งแต่ความคุ้มครองบุคคลภายนอกขั้นพื้นฐานไปจนถึงแผนประกันภัยรถยนต์แบบครอบคลุมที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด ตัวเลือกที่เราเลือกจะขึ้นอยู่กับรถ ความเชี่ยวชาญการขับขี่ และงบประมาณที่เรามี อย่างไรก็ตาม หากต้องการจะทำประกันรถยนต์ 3+ ก็ควรมีการพิจารณารายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อความอุ่นใจ ประกันรถยนต์ 3+ จะช่วยปกป้องรถของเราจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และรับประกันว่าตัวเราจะได้รับความคุ้มครองขณะขับรถบนท้องถนนอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ ที่คุ้มครองความเสียหาย รู้หรือไม่ ว่าก็มีส่วนที่ไม่คุ้มครองเช่นกัน แล้ว ประกันรถยนต์ 3+ มีเงื่อนไขใดบ้างที่ไม่ให้ความคุ้มครอง
ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
หากต้องการเลือกทำ ประกันรถยนต์ 3+ เราจะต้องมีการศึกษาค้นคว้าถึงเงื่อนไขข้อยกเว้นที่ทางประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองด้วย ทั้งนี้ ประกันรถยนต์ 3+ จะไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี ไม่ว่าเราจะชนเสา ชนกำแพงบ้าน หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้อย่างชัดเจนในตอนแจ้งเคลม รถยนต์ของเราจะไม่ได้รับความคุ้มครอง นอกจากนี้ หากรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วม หรือถูกไฟไหม้ หรือกรณีสูญหายเพราะถูกโจรกรรมก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราจะต้องมั่นใจพอสมควรว่าความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากเหตุการณืไม่คาดคิดเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้น้อยมาก
ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการนำรถไปใช้อย่างผิดกฎหมาย
ประกันรถยนต์ 3+ ก็มีข้อยกเว้นที่จะไม่ให้ความคุ้มครองเหมือนกับประกันประเภทอื่นๆ ทั่วไป ซึ่งประกันรถยนต์ 3+ จะไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์คันเอาประกัน ในกรณีที่นำรถออกไปขับขี่อย่างผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น กรณีไม่มีใบขับขี่ ใบขับขี่หมดอายุ เมาแล้วขับ หรือนำรถไปขนของผิดกฎหมาย เป็นต้น ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม เจ้าของรถจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ทางประกันจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและจะไม่ให้ความคุ้มครองเพื่อสนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการนำรถไปใช้ผิดประเภท
หากนำรถไปใช้ผิดประเภทถือว่าเป็นข้อยกเว้นอีกอย่างหนึ่งในการให้ความคุ้มครองของ ประกันรถยนต์ 3+ จากทุกบริษัทประกัน ตัวอย่างเช่น ในตอนที่เราทำประกัน เราเลือกทำประกันสำหรับรถยนต์ที่จะนำไปใช้ส่วนบุคคลเท่านั้น แต่เรานำรถไปขับแท็กซี่หรือไปใช้ในเชิงพาณิชย์อื่นๆ แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมั่นใจแล้วว่าจะได้รับความคุ้มครองเพราะเป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี แต่ทางประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองถ้ารถยนต์คันเอาประกันถูกนำไปใช้ผิดประเภท ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลง เราจะต้องรับผิดชอบเอง เนื่องจากไม่มีสิทธิ์ที่จะไปแจ้งเคลมเพื่อขอรับความคุ้มครองได้แล้ว
